ชื่อเสียงของ จู๊ด เบลลิงแฮม เริ่มเป็นที่น่าสนใจขึ้นมาหลังจากมีข่าวว่า เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ลงมาเดินเกมเจรจากับทางครอบครัวเพื่อขอให้ เบลลิงแฮม ย้ายมาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อช่วงปี 2020 เด็กคนนี้พิเศษอย่างไร ทำไมคนอย่างเฟอร์กี้ ถึงยอมลงไปเจรจาด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายการเจรจาก็ไม่ประสบผลสำเร็จ ก่อนที่ เบลลิงแฮม จะตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ท่ามกลางการจับตามองของบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ว่าเด็กคนนี้จะพัฒนาไปอย่างไร
จุดเริ่มต้นเส้นทางการค้าแข้งของ จู๊ด เบลลิงแฮม
เบลลิงแฮม เกิดวันที่ 29 มิถุนายน ปี 2003 ก่อนที่จะเข้าร่วมทีมเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 8 ปี ของเบอร์มิงแฮม ซิตี ก่อนที่เจ้าตัวจะก้าวขึ้นสู่ชุดใหญ่ของเบอร์มิงแฮม ในฤดูกาล 2019-2020 และได้ลงเล่นให้กับทีมไปทั้งหมด 44 นัดยิงไป 4 ประตู ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวติดทีมชาติอังกฤษรุ่นเยาวชนตั้งแต่ 15 จนถึง 21 ปี และถูกจับตามองเป็นอย่างมากจากบรรดาทีมใหญ่ๆ ในอังกฤษ ที่ต้องการดาวรุ่งรายนี้ไปร่วมทีม
ขนาดป๋าเฟอร์กี้ยังเคยสนใจ
แต่ตอนนั้นเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แสดงเจตจำนงค์มากที่สุด โดยเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นคนลงมาเดินเกมเจรจาด้วยตัวเอง รวมถึงการพานักเตะชมสนาม “โอลด์ แทรฟฟอร์ด” เป้าหมายของเฟอร์กี้คือการโน้มน้าวใจให้นักเตะย้ายมาร่วมทีม “ปีศาแดง” แบบไร้ค่าตัวเพราะตอนนั้น เบลลิงแฮม กำลังใกล้จะหมดสัญญากับทีม แต่ด้วยความล่าช้าของบอร์ดบริหาร ทำให้สุดท้าย เบลลิงแฮม ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แทน สำหรับสไตล์การเล่นของ เบลลิงแฮม นั้นเจ้าตัวเล่นกองกลางตัวรุกเป็นหลัก หรือเล่นในตำแหน่งของมิดฟิลด์ตัวเชื่อมเกม จะคล้ายๆ กับ แลมพาร์ด และมีลูกทีเด็ดอยู่ที่การสอดขึ้นมาทำประตู อย่างที่เจ้าตัวทำได้อยู่บ่อยครั้งด้วยกัน
ย้ายซบเสือเหลือง
เบลลิงแฮม ตัดสินใจย้ายมาร่วมทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัวที่ไม่เปิดเผยแต่หลายฝ่ายตาดการณ์กันว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 25 ล้านปอนด์ด้วยกันบวกกับออพชั่นอีกนิดหน่อย โดยตัวของเบลลิงแฮมได้รับโอกาสลงประเดิมสนามครั้งแรกในเกม เดเอฟเบ โพคาล นัดเจอกับ ดุยส์บวร์ก ในฤดูกาล 2020-2021 โดยเกมนั้น “เสือเหลือง” เอาชนะไป 5-0 และเบลลิงแฮมก็เป็นคนทำประตูที่ 2 ให้กับต้นสังกัดด้วยวัยเพียง 17 ปีกับอีก 77 วันเท่านั้น จากนั้นเจ้าตัวก็พัฒนาฝีเท้าจนได้กลายเป็นกำลังหลักของดอร์ทมุนด์ แทนที่ของ จาดอน ซานโช ดาวเตะรุ่นพี่ที่ย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เบลลิ่้งแฮม ยึดตำแหน่งตัวจริงในแดนกลางของดอร์ทมุนด์อย่างเหนียวแน่นและมีส่วนสำคัญในการต้นสังกัดมีลุ้นแชมป์อยู่ในฤดูกาลนี้
ฟอร์มแรงจนได้ไปบอลโลก 2022
ด้วยฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรง บวกกับสภาพร่างกายที่แข็งแรงเกินวัยทำให้ แกเร็ธ เซาธ์เกต ตัดสินใจใส่ชื่อของ เบลลิงแฮม เป็นหนึ่งใน 26 ขุนพล ชุดลุยฟุตบอลโลกที่ประเทศกาตาร์ในครั้งนี้ และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ผู้จัดการทีมต้องผิดหวังเมื่อสามารถเบิกประตูแรกให้กับประเทศอังกฤษในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ได้เป็นผลสำเร็จ โดยในเกมนัดแรกที่ผ่านมานั้น อังกฤษ ถล่มเอาชนะ อิหร่าน ไป 6-2 ทำให้ตอนนี้โอกาสเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายของ “สิงโตคำราม” เริ่มสดใสทันที
สถานีต่อไปจะเป็นที่ไหน ?
ต้องดูกันต่อไปว่าสุดท้ายแล้วเส้นทางการค้าแข้งของเบลลิงแฮมจะไปจบลงที่ไหน เพราะตอนนี้ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังรุกหนักอย่างมากในการเจรจาคว้าตัวนักเตะกลับไปอังกฤษอีกครั้ง หรือจะเป็นลิเวอร์พูล ที่กำลังจับตามองอยู่เช่นเดียวกัน หรือสุดท้ายจะกลายเป็น เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่จอมฉกดาวรุ่งแห่งประเทศสเปนที่จะได้ลายเซ็นดาวเตะรายนี้ไปครอง
อ่านข่าวเพิ่มเติม :: ผลบอลสด
ติดตามเว็บหลัก :: ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ
บาโลกุนรอตัดสินอนาคตช่วงซัมเมอร์
