แมนยูพิจารณาทุบโรงละครแห่งความฝัน สร้างสนามเหย้าใหม่

สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดเป็นสนามที่อยู่มากับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอย่างยาวนานเป็นระยะเวลากว่า 112 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะมีการซ่อมแซมและบูรณะอยู่เสมอเพื่อให้สภาพภายในสนามยังคงสามารถใช้งานได้ตามปกติ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปสนามก็ย่อมมีอาการเสื่อมโทรมและดูไม่ทันสมัยอยู่ดีโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสนามของสโมสรอื่นในอังกฤษ

 ดังนั้นในตอนนี้แมนยูจึงอยู่ในขั้นตอนพิจารณาการทุบโรงละครแห่งความฝันเพื่อสร้างสนามเหย้าใหม่ให้มีความสวยงามและทันสมัยมากกว่าเดิม โดยเฉพาะหลังจากที่มีกระแสออกมาหนาหูว่าบรรดาแฟนบอลทั้งหลายที่ไปรับชมการแข่งขันในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดรู้สึกว่าสภาพของสนามไม่ดีเท่าที่ควร

นอกจากจะดูไม่ทันสมัยแล้วมันยังมีสภาพเสื่อมโทรมอีกด้วย มันเลยทำให้ทางบอร์ดบริหารยิ่งต้องพิจารณาเกี่ยวกับแผนการสร้างสนามเหย้าใหม่ให้กับทีมมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

โดยทางบอร์ดบริหารของแมนยูได้นำเอาแผนงานเกี่ยวกับสนามขึ้นมาเป็นหนึ่งในประเด็นที่พวกเขาต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงหลายปีให้หลังมานี้ที่สภาพของสนามก็เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ ปัจจุบันมี 3 ตัวเลือกที่พวกเขาต้องพิจารณาประกอบไปด้วยการทุบสนามทิ้งแล้วสร้างสนามใหม่ขึ้นมาที่บริเวณเดิม การปล่อยโครงสร้างแบบเดิมที่มีอยู่เอาไว้และปรับปรุงพื้นที่บริเวณที่นั่งของผู้รับชมทั้ง 4 ด้าน และสุดท้ายคือการขยายอัฒจันทร์บริเวณฝั่งใต้ที่เริ่มเก่ามากกว่าใครเพื่อน

สื่อชื่อดังในอังกฤษอย่างเดลี่เมลได้มีการออกมาเปิดเผยว่าในบรรดา 3 ตัวเลือกที่แมนยูต้องพิจารณาเชื่อว่าตระกูลเกรเซอร์น่าจะเลือกวิธีการบูรณะอัฒจันทร์ฝั่งใต้มากกว่า เพราะเราต้องไม่รู้ว่าสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดมันสมกับชื่อโรงละครแห่งความฝัน หากทุบทิ้งไปแน่นอนว่าต้องมีแฟนบอลหลายคนที่ไม่พอใจอย่างแน่นอนซึ่งอาจจะลุกลามไปถึงบรรดานักฟุตบอลทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่อีกด้วย

นอกจากนี้พวกเขายังต้องไปหาสนามอื่นใช้ชั่วคราวอีกต่างหาก ซึ่งในบริเวณตะวันตกเฉียงเหนือในอังกฤษไม่มีสนามที่สามารถใช้เป็นสนามเหย้าชั่วคราวของแมนยูได้เลยเนื่องจากมีขนาดที่ไม่ใหญ่พอ แตกต่างจากตอนที่ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์กำลังสร้างสนามใหม่แล้วยืมสนามเวมบลีย์ใช้เป็นสนามเหย้าแทน ซึ่งสำหรับแมนยูแล้วไม่มีทางที่พวกเขาจะไปขอใช้สนามของแมนเชสเตอร์ซิตี้ชั่วคราวอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามทางบอร์ดบริหารก็ยังคงพิจารณาเกี่ยวกับทางเลือกในการทุบสนามสร้างใหม่เช่นเดียวกัน แต่พวกเขาจะต้องมีการปรึกษากับผู้เกี่ยวข้องให้ดีรวมไปถึงเหล่าบรรดาแฟนบอลก่อนจะมีการตัดสินออกมาอย่างเป็นรูปธรรมในเวลาต่อไป